หลักสูตร “ทักษะการเจรจาต่อรอง”
หลักการและเหตุผล
“คุณน่าจะได้ในสิ่งที่คุณควรได้!” แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณได้ไปน้อยกว่าที่ควรจะได้ใช่หรือไม่ ? เพราะอะไรเล่า ก็เพราะคนเรามักจะขี้เกรงใจเกินไปที่จะเอ่ยปาก และยังขาดทักษะในการเจรจาต่อรอง อีกด้วย
ในมุมมองนี้ “ทักษะการเจรจาต่อรอง” จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับทุกคนที่คิดว่าตนเองไม่ควรจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากอีกฝ่ายหนึ่งด้วยความไม่ชอบธรรม การเรียนรู้ทักษะการเจรจาต่อรอง จึงเป็นการเรียนรู้ว่าเราควรจะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างไร อีกฝ่ายจะมาไม้ไหน เราจะโต้ตอบอย่างไร ด้วยยุทธ์วิธีไหน โดยไม่ใช้อารมณ์ และได้รับในสิ่งที่ควรได้อย่างสมเหตุสมผลทั้งสองฝ่าย
การเรียนรู้ “ทักษะในการเจรจาต่อรอง” จึงมิได้มีไว้ใช้ สำหรับการเรียกร้อง เอารัดเอาเปรียบอีกฝ่ายหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะนำไปใช้แล้วได้ประโยชน์กลับมาก็ตาม แต่จะเป็นเพียงผลตอบแทนระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งในระยะยาวแล้ว คุณจะสูญเสียมากกว่า เพราะนั่นมิใช่การเจรจาต่อรอง แต่มันคือการใช้เล่ห์กลหลอกลวงผู้อื่น ด้วยคำพูดที่ปราศจากความจริงใจ ตรงไปตรงมาต่างหาก !
ดังนั้นการใช้ทักษะการเจรจาต่อรอง จึงต้องใช้ควบคู่กับความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความมีเหตุผล ซึ่งจะทำให้คู่เจรจาต่อรองของคุณ ให้ความเชื่อถือ ไว้วางใจในตัวคุณ และอยากเจรจาต่อรอง กับคุณอีกในโอกาสต่อไป
มาสนุกกับการเจรจาต่อรองกันเถอะครับ ! และรับในสิ่งที่คุณ “ ควรได้ ” ไว้ด้วยความชอบธรรม สมเหตุ-สมผล !
ได้ประโยชน์อะไร ?
1. การเจรจาต่อรอง ช่วยทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยินยอม และช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
2. การเจรจาต่อรอง ช่วยทำให้เราสามารถควบคุมอารมณ์ และควบคุมสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น
3. การเจรจาต่อรอง ช่วยรักษาสัมพันธภาพระหว่างเรา และคู่เจรจาได้
นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ?
1. การเจรจาต่อรอง สามารถนำไปใช้ในทางธุรกิจ, หน้าที่, การงาน เช่น การจัดซื้อ, ขายสินค้า-บริการ การต่อรองขอกำลังคนเพิ่มเติม การเจรจาเรื่องเงินเดือน เป็นต้น
2. การเจรจาต่อรองสามารถนำไปใช้ในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน, ลูกน้อง, เจ้านาย, เช่น การเจรจา ประนีประนอมเพื่อแก้ไขปัญหาขัดแย้งเรื่องงาน
3. การเจรจาต่อรองสามารถนำไปใช้กับหน่วยงานราชการ, บริษัทห้างร้าน เช่น การนำเสนองาน, การประมูลงาน และการเจรจาต่อรองเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาที่เคยตกลงกัน